iPhone 7 ไอโฟน 7 และ iPhone 7 Plus (1 ต.ค. 59) : ยืนยันแล้ว iPhone 7 วางจำหน่ายในไทย 21 ตุลาคมนี้แน่นอน คาดราคาไอโฟน7เปิดตัวไม่ต่างจาก iPhone 6s
แม้ในตอนนี้ Apple ประเทศไทย จะยังไม่ได้ประกาศราคาเครื่องทั้ง 2 รุ่นอย่างเป็นทางการออกมาแต่คาดว่าคงจะเปิดเผยออกมาในอีกไม่นานนี้ อย่างไรก็ดีจากสถิติที่ผ่านมาเราสามารถประมาณการณ์ราคา iPhone 7 หรือ iPhone 7plus ในไทยได้ดังนี้ครับ ราคา iPhone 7 และ ราคา iPhone 7 Plus ในไทยที่จะจำหน่ายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ (คาดการณ์) ก่อนที่จะสรุปราคาไอโฟน 7 เรามาสรุปราคาเปิดตัวของ iPhone 7 แต่ละรุ่นกันก่อนมาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีราคาเท่าไหร่บ้าง *คำนวณที่อัตราแลกเปลี่ยนค่าเฉลี่ยที่ 35 บาทต่อ 1USD
ดังนั้นราคาเปิดตัวในไทย iPhone 7 (ไอโฟน 7) น่าจะอยู่ที่ 27,000 บาทและ iPhone 7plus ที่ 32,000 บาท สำหรับราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในไทย ถ้าหากเปรียบเทียบกับราคา iPhone 6S ตอนเปิดตัว ราคาเท่ากันอยู่ที่ $649 นั่นหมายความว่า ราคา iPhone 7 ในไทย อาจจะเริ่มต้นที่เท่าเดิม ที่ราคา 26,900 บาท ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีส่วนต่างจากราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 4,500 บาท อย่างไรก็ดีต้องไม่ลืมว่าราคา $649 เป็นราคาเปิดตัวของ iphone 6s รุ่น 16 GB เท่ากับว่าการเปิดตัวครั้งนี้ Apple ให้หน่วยความจำเพิ่มขึ้นมา 2 เท่าเลยทีเดียว เรามาลองคำนวณกันโดยใช้ส่วนต่างที่ 4,500 มาดูกันว่าราคาเปิดตัวในไทยจะอยู่ที่เท่าไหร่
สำหรับตอนนี้อีกข่าวที่น่าสนใจน่าจะเป็นราคาเครื่องหิ้วที่เราเพิ่งอัปเดตไปน่าจะมีการปรับลดราคารับกับข่าวนี้พอสมควร และคาดว่าในเร็วๆนี้ค่ายต่างๆน่าจะออกมาเปิดให้ Pre-order พร้อมเงื่อนไขพิเศษต่างๆ คงต้องรอดูกันว่าใครจะเป็นคนประกาศราคาและเงื่อนไข การ Pre-order ก่อนกันนะครับ เรียบเรียงโดย : Techmoblog.com อัปเดต : 1/10/59 ที่มา - macrumors.com iPhone 7 เครื่องหิ้วลดราคาแล้วเริ่มต้น 33,000 บาท ด้านสี Jetblack ราคาพุ่งไปที่ 45,000 บาท พร้อมสรุปข้อมุลเวลาวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับราคา iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus เครื่องหิ้ว (เครื่องนอก) ที่ห้างมาบุญครอง จากการสำรวจล่าสุดในวันนี้ เป็นดังนี้ ส่วนใครที่ตั้งใจจะซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เครื่องหิ้ว จำเป็นต้องวางเงินมัดจำไว้ก่อน อยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท เมื่อให้มั่นใจได้ว่า ได้สินค้านั้นจริง ๆ เพราะถ้าหากเดิน walk-in ไปซื้อ อาจจะไม่สามารถซื้อได้ ซึ่งก็ต้องเลือกร้านที่ไว้ใจได้พอสมควร ควรซื้อ iPhone 7 เครื่องหิ้วหรือ iPhone 7 เครื่องศูนย์ ถ้าดูจากสถานการณ์ตอนนี้มี 2 ปัจจัยที่ควรพิจารณาอย่างแรกคือการซื้อบางร้านจะเป็นลักษณะ Preorder ซึ่งต้องวางเงินมัดจำล่วงหน้า ถึงแม้บางร้านจะเป็นที่น่าเชื่อถือ แต่ถ้าติดตามข่าวช่วงนี้ทางการค่อนข้างที่จะเข้มงวดกับการนำ ไอโฟน 7 ดังนั้น หากร้านที่นำเข้ามาไม่เสียภาษีให้ถูกต้องก็อาจถูกกักสินค้าไว้และอาจเป็นข้ออ้างที่ทางร้านใช้ในการไม่ส่งเครื่องให้กับผู้ซื้อได้ ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการซื้อเครื่องหิ้ว ผมแนะนำว่าควรซื้อกับร้านที่มีสินค้าให้เราก่อนเท่านั้น ปัจจัยที่ 2 คือการวางจำหน่ายในไทย ตามสถิติการวางจำหน่ายจะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ดังนั้นการคำนวณส่วนต่างถ้าเทียบกับระยะเวลาที่รอ 1 เดือนก็คงต้องบอกว่าเป็นส่วนต่างที่ยังสูงอยู่ และถ้าใครอยากได้สี Jet black ส่วนต่างก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก แต่คงต้องบอกว่าถ้าจะรอซื้อจากศูนย์ในไทยสี Jetblack มีแนวโน้มว่าต้องแย่งกันจอง และมีสิทธิ์ที่จะไม่ได้เครื่องสูงมากดังนั้น ตรงนี้ก็แล้วแต่ความพึงพอใจของแต่ละคนครับ สุดท้ายที่อยากให้พิจารณาคือเรื่องของการรับประกันกรณีที่มีปัญหาหากเราซื้อเครื่องหิ้วแล้วเครื่องเกิดมีปัญหากรณีต้องการเปลี่ยนเครื่องใหม่กรณีที่ไม่ได้ซื้อจาก Apple Store โดยเฉพาะเครื่องปลดล็อคเราอาจจะจำเป็นจะต้องส่งกลับไปเคลมที่ต่างประเทศซึ่งก็จะทำให้เสียเวลามากกว่าการซื้อเครื่องที่มีการรับประกันภายในประเทศครับ iPhone 7 และ iPhone 7Plus จะเข้าไทยเดือนไหนวันเวลาที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการคือเมื่อไหร่ สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในไทย ในตอนนี้ ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมาแต่สิ่งที่เราบอกได้คือตามสถิติตั้งแต่ iPhone 5 เป็นต้นมา Apple ไม่เคยวางจำหน่ายเกินเดือนตุลาคม ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่า iPhone 7 จะเข้าไทยและเปิดตัวในปลายเดือนตุลาคมนี้ แต่เนื่องจากสีดำ Jet Black มียอดจองสูงและขาดตลาดอยู่เป็นไปได้ว่าสี Jet black อาจจะมีให้จองอย่างเป็นทางการในจำนวนจำกัดครับ สำหรับราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus คาดว่าราคาของ ไอโฟน 7 จะไม่ต่างจาก ราคาเปิดตัว iPhone 6S และ iPhone 6S Plus เท่าใดนัก โดยเริ่มต้นที่ราว ๆ 26,900 บาท สำหรับใครที่รอได้การรอการเปิดตัวน่าจะเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าซึ่งนอกจากจะได้ราคาที่ถูกกว่าแล้ว อาจจะได้โปรโมชันดีๆจากเครือข่ายเพิ่มเติมอีกด้วยครับ *อัปเดตล่าสุด 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 Apple ออกมาประกาศแล้ว iPhone 7 จะวางในไทย 21 ตุลาคมนี้ เรียบเรียงโดย - techmoblog.com IHS เผย ต้นทุนผลิตชิ้นส่วนใน iPhone 7 อยู่ที่ประมาณ 7,600 บาทเท่านั้น!
นาทีนี้สมาร์ทโฟนเรือธงที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดคงหนีไม่พ้น iPhone 7 ที่แม้จะยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทยแต่ก็มีคนที่ยอมจ่ายเงินหลายหมื่นบาทเพื่อซื้อเครื่องหิ้วมาครอบครองก่อนใคร ส่วนในประเทศอื่นๆ ก็ขายหมดอย่างรวดเร็วแม้จะมีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ก็ตาม แต่เคยสงสัยกันไหมว่า ต้นทุนส่วนประกอบของ iPhone 7 นั้น มีมูลค่าเท่าไหร่กันแน่?
IHS บริษัทด้านการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก ได้นำ iPhone 7 รุ่นความจุ 32 GB มาชำแหละและคำนวณค่าใช้จ่ายในการผลิตชิ้นส่วนแต่ละชิ้น พบว่ามันมีราคาเพียง 220 ดอลลาร์ หรือราวๆ 7,600 บาทเท่านั้น ในขณะที่ราคาเต็มใน US Store อยู่ที่ 649 ดอลลาร์ หรือราว 22,500 บาท ซึ่งสูงกว่าต้นทุนถึง 3 เท่า
IHS ระบุว่า ส่วนประกอบต่างๆ ใน iPhone 7 มีราคาสูงกว่าใน iPhone 6s ประมาณ 36 ดอลลาร์ (1,250 บาท) ซึ่งส่วนต่างนี้มาจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเช่น Taptic Engine ภายใต้ปุ่ม Home, โมดูลกล้องแบบใหม่ และความจุภายในที่มากขึ้นกว่าเดิม
Apple A10 Processor
สำหรับส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ เช่นชิปประมวลผล A10 มีต้นทุนการผลิต 26 ดอลลาร์ (904 บาท) โมดูลกล้องด้านหน้าและด้านหลังรวมกันมีมูลค่าไม่ถึง 20 ดอลลาร์ ( 695 บาท) ส่วนที่แพงที่สุดคือแผงหน้าจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้วซึ่งมีมูลค่า 39 ดอลลาร์ (1,356 บาท) แต่ในขณะเดียวกันแบตเตอรี่กลับราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ โดยมีมูลค่าเพียง 2.5 ดอลลาร์ (87 บาท) เท่านั้น ส่วนราคาของหน่วยความจำแฟลชขนาด 32 GB และ RAM 2 GB รวมแล้วเป็น 16.40 ดอลลาร์ (570 บาท) เมื่อเพิ่มความจุเป็น 128 GB ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ Apple กลับตั้งราคาขายต่างกันถึง 100 ดอลลาร์ ถึงกระนั้นก็ตามการเพิ่มหน่วยความจำเป็น 2 เท่าในทุกรุ่น (32/128/256 GB) ก็ทำให้กำไรตรงส่วนนี้หายไปบ้างเช่นกัน แม้ว่าราคาหน่วยความจำแฟลช NAND ในท้องตลาดจะถูกลงแล้วก็ตาม
Taptic Engine
งานวิจัยนี้ยังไม่ได้วิเคราะห์มูลค่าวัสดุของ iPhone 7 Plus ซึ่งจะมีต้นทุนสูงกว่านี้อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและโมดูลกล้องคู่ที่มีความซับซ้อนกว่า แต่จากการคำนวณเบื้องต้นคาดว่ามูลค่าการผลิตของโมดูลกล้องคู่จะอยู่ที่ประมาณ 40 ดอลลาร์ (1,390 บาท)
แม้ทาง IHS จะคำนวณราคาของส่วนประกอบต่างๆใน iPhone 7 ออกมาที่ 220 ดอลลาร์ แต่สำหรับ Apple แล้วยังมีค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบรรจุภัณฑ์ การขนส่ง ภาษี และค่าใช้จ่ายด้านการตลาด นอกจากนี้ยังมีค่าพัฒนาซอฟต์แวร์ ค่าจ้างพนักงาน และอื่นๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายจริงในการผลิต iPhone 7 ถีบตัวสูงขึ้นอีก แต่แม้ว่าจะนำค่าใช้จ่ายทุกอย่างมารวมกันแล้ว Apple ก็ยังคงทำกำไรได้ถึง 250 ดอลลาร์ (8,690 บาท) ต่อการขาย iPhone 7 1 เครื่องอยู่ดี
ไม่ว่าต้นทุนที่แท้จริงของ iPhone 7 จะเป็นอย่างไร แต่ Apple ก็ได้เปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ลงสู่ตลาดได้อย่างสวยงามและยังขายดิบขายดีเช่นเดิม แถมยังฉุดเอาหุ้น APPL สูงตามขึ้นมา อันเป็นผลมาจากกระแสตอบรับของผู้ใช้ที่มีต่อเรือธงรุ่นใหม่ดีกว่าที่คาดไว้นั่นเอง สำหรับต้นทุนการผลิตชิ้นส่วนแต่ละชิ้นโดยละเอียด สามารถดูได้ตามตารางด้านล่างครับ - 9 to 5 mac
เปิดกล่อง จะเจอคู่มือการใช้งานก่อน
และตัวเครื่อง iPhone 7 สีดำเงา Jet Black
สำหรับหูฟังแบบ Lightning นั้น จะไม่ถูกบรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกแบบเดียวกับ iPhone 6S
ถัดมาเป็นสาย Lightning สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และ Adapter สำหรับชาร์จไฟ
เปรียบเทียบตัวเครื่องระหว่าง สีดำ Black (ซ้าย) กับ สีดำเงา Jet Black (ขวา)
โดยระบบ Taptic Engine นี้ จะช่วยทำให้มีความรู้สึกว่า เหมือนกับกำลังกดปุ่ม Home ลงไปจริง ๆ คล้าย ๆ กับ TrackPad บน MacBook รุ่นใหม่นั่นเอง นั่นก็คือ ถ้าหากเปิดเครื่องอยู่ จะสามารถกดใช้งานได้เหมือน Trackpad ปกติ แต่ถ้าหากปิดเครื่อง จะไม่สามารถกดลงไปได้ ปุ่ม Home บน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าการกดได้ 3 ระดับ นั่นก็คือ การแตะ, การกดเบา ๆ และกดหนัก ๆ ส่วนใครที่สงสัยว่า ถ้าหากปุ่ม Home กดลงไปไม่ได้แบบนี้ จะทำการ Hard Reset อย่างไร ก็ให้กดปุ่ม Power และปุ่มลดเสียงแทน เป็นการทำ Hard Reset บน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ครับ เรียกได้ว่า ทั้ง iPhone 7 สีดำ Black กับ สีดำเงา Jet Black มีความสวยกันคนละแบบ แต่สำหรับคนที่คิดจะซื้อ iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus สีดำเงา Jet Black ควรจะต้องระวังเรื่องการเป็นรอยง่ายสักหน่อย ซึ่งทาง แอปเปิล เองก็แนะนำให้หาเคสมาใส่เพิ่มด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเครื่องเกิดรอยได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในไทย ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเผยออกมา ถ้าหากมีความคืบหน้า ทีมงานจะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งครับ - cultofmac.com เผยผลทดสอบ AnTuTu ล่าสุด ขึ้นแท่นมือถือเร็วที่สุดในโลกแล้ว สำหรับ iPhone 7 มาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 2GB พร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Quad-Core A10 Fusion ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งแบ่งการทำงาน 2 คอร์สำหรับการทำงานด้านประสิทธิภาพ และอีก 2 คอร์สำหรับประหยัดพลังงาน โดยมีความเร็วมากกว่าชิปเซ็ต A9 ที่ใช้บน iPhone 6s ถึง 40% ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า iPhone 7 Plus เรือธงรุ่นใหญ่จะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างมากน้อยเพียงใด - gsmarena.com เปิดตัวแล้ว iPhone 7 (ไอโฟน 7) และ iPhone 7 Plus มาพร้อมกล้องคู่แบบ Dual-Camera 12 MP กันน้ำ เพิ่มสีใหม่ สีดำเงา Jet Black และสีดำด้าน Black ในราคาเริ่มต้นประมาณ 23,000 บาท >> บทความสรุปงานเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ตั้งแต่ต้นจนจบ พรัอมผลิตภัณฑ์ใหม่ Apple Watch Series 2 และ AirPods หูฟังไร้สาย iPhone 7 Plus มาพร้อมกับกล้องแบบ Dual-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ส่วน iPhone 7 มาพร้อมกับกล้องแบบ Single-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และมีคุณสมบัติในด้านอื่น ๆ เหมือนกัน นั่นก็คือ รูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.8, ไฟแฟลชแบบ Quad-LED (ไฟแฟลช 4 ดวง) สว่างกว่าเดิม 50%, กล้องด้านหน้า ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 (อัปเกรดจาก 5 ล้านพิกเซลบน iPhone 6S และ iPhone 6S Plus) และมีระบบกันสั่นแบบ OIS ทั้งบน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เพิ่มคุณสมบัติในการกันน้ำ กันฝุ่น ชิปเซ็ต Apple A10 Fusion แบบ Quad-Core Processor นอกจากนี้ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ยังรองรับเครือข่าย LTE มากถึง 25 ความถี่ พร้อมเทคโนโลยี LTE Advanced สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วกว่า iPhone 6 ถึง 3 เท่า สูงสุดที่ 450 Mbps หน้าจอขนาดเท่าเดิม แต่เพิ่มความสว่างขึ้นอีก 25% ปุ่ม Home แบบ 3D Touch ตัดขนาดความจุ 16 GB ออก เริ่มต้นที่ 32 GB แล้ว นับว่าเป็นข่าวดีมากเลยทีเดียว เมื่อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมกับขนาดความจุเริ่มต้นที่ 32 GB แล้ว และตัดรุ่นขนาดความจุ 16 GB ออก โดยมีให้เลือก 3 ขนาดความจุด้วยกัน ได้แก่ 32 GB, 128 GB และ 256 GB ตัดช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออกแล้ว AirPods หูฟังไร้สายสุดล้ำ และด้วยคุณสมบัติของชิปเซ็ต Apple W1 บน AirPods ซึ่งใช้พลังงานน้อยมาก ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดย AirPods จะมีการวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ลำโพงเสียงแบบสเตอริโอ ดังกว่าเดิม 2 เท่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus มาพร้อมกับลำโพงแบบสเตอริโอ ให้กำลังเสียงดังกว่า iPhone 6S ถึง 2 เท่า ทำให้มีช่วงไดนามิกของเสียงที่กว้างขึ้นและ Speaker Phone คุณภาพเสียงดีกว่าเดิม แบตเตอรี่ใช้ได้นานกว่าเดิม ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 10 iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ทำงานบนระบบปฏิบัติการ iOS 10 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ล้ำ ๆ มากมาย (อ่านฟีเจอร์ของ iOS 10 ต่อได้ที่นี่) โดย iOS 10 จะเปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 กันยายนนี้ เพิ่มสีใหม่ สีดำเงา (Jet Black) และสีดำด้าน (Black) ราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ราคา iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในสหรัฐฯ เป็นดังนี้
ส่วนราคา iPhone 7 Plus เมื่อเทียบกับ iPhone 6S Plus ตอนเปิดตัว ซึ่งอยู่ที่ $749 ถือว่า iPhone 7 Plus มีราคาแพงขึ้น $20 โดยราคา iPhone 6S Plus ในไทยตอนเปิดตัวอยู่ที่ 30,500 บาท ฉะนั้น มีความเป็นไปได้ที่ ราคา iPhone 7 Plus ในไทย อาจจะแตะราคาเริ่มต้นที่ 31,000 - 31,500 บาทได้ ทั้งนี้อยู่ที่ความผันผวนของราคาค่าเงินในช่วงเวลาที่จะวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เปิดพรีออเดอร์ 9 กันยายน จำหน่าย 16 กันยายนนี้ (ยังไม่มีไทย) ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายรอบที่ 2 คือวันที่ 23 กันยายน 2016 ในประเทศอันดอร์รา, บาห์เรน, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เอสโตเนีย, กรีซ, กรีนแลนด์, เกิร์นซีย์, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, เกาะแมน, เจอร์ซีย์, คอซอวอ, คูเวต, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, มัลดีฟส์, มอลตา, โมนาโก, โปแลนด์, กาตาร์, โรมาเนีย, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย, สโลวาเกีย และสโลวีเนีย ส่วนในประเทศอินเดีย วางจำหน่ายวันที่ 7 ตุลาคม 2016 สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ในไทย ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศออกมา แต่คาดว่า น่าจะอยู่ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยทีมงาน techmoblog จะอัปเดตความเคลื่อนไหวให้ทราบกันเป็นระยะ สามารถติดตามได้ที่นี่ครับ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น