เทคนิคดีๆ 7 ข้อในการขอทุนการศึกษาที่พลาดไม่ได้
ถึงแม้ว่าทุนการศึกษาที่เข้ามาในแต่ละปีนั้น จะมีเยอะนับพันๆ ทุนต่อปีเลยก็ว่าได้ แต่ก็ย่อมจะมีการคัดเลือกผู้ที่มีศักยภาพพอที่จะเข้ารับทุน วันนี้เราจึงมีแนวทางดีๆ สำหรับคนที่อยากได้ทุนเรียนต่อมาฝากกันจ้า
ผลการเรียน และภาษาต้องดี
เป็นพื้นฐานในการที่จะได้ทุนการศึกษาเลย เพราะสถาบันที่เราสมัครขอทุนการศึกษาไปนั้นไม่รู้ว่าเรามีศักยภาพพอไหม ก็จะดูจากผลการเรียนของเรานี่เอง รวมถึงความสามารถทางภาษาของเราว่าเหมาะสมที่จะเข้าเรียนในประเทศนั้นๆ ไหมนั่นเอง
ผ่านเกณฑ์ในการรับสมัครทุน
ขั้นแรกเราต้องตรวจสอบแต่ละทุนให้ดีและละเอียดว่า ทางมหาวิทยาลัยหรือองค์กรผู้มอบทุนตั้งเกณฑ์อะไรไว้บ้าง แล้วจึงมาตรวจสอบคุณสมบัติของเราเองว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จผ่านคุณสมบัติเหล่านั้นหรือไม่
การสมัครเข้าเรียนอย่างรวดเร็ว
เหมือนสายน้ำที่ไม่เคยรอใคร และไม่เคยไหลย้อนกลับ ทุนส่วนใหญ่จะเปิดให้นักศึกษาที่สามารถสมัครเข้าเรียนกับทางมหาวิทยาลัยได้ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่าสถาบันไหนเปิดให้สมัครทุน ก็ต้องรีบสมัครไว้ก่อน พอผ่านคัดเลือกเข้าเรียนแล้วก็จะคุยเรื่องขอทุนง่ายขึ้น
ทำตัวให้น่าประทับใจ
การแสดงให้ทางมหาวิทยาลัยหรือสถาบันต่างๆ ว่าเราสนใจในสถาบันนั้น หรือมีความรู้เกี่ยวกับตัวสถาบันเป็นอย่างดี และความกระตือรือร้นที่จะเรียนในหลักสูตรเหล่านั้นจริงๆ สามารถช่วยคุณได้
อย่าสนใจแต่ตัวเอง
เวลาถูกสัมภาษณ์จากคณะกรรมการผู้คัดเลือก ควรจะบอกว่าเราจะสามารถพัฒนา และทุนช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างไร แต่ที่สำคัญอย่าลืมบอก้วยว่า เราจะสามารถช่วยเหลือสังคม สถาบัน หรือประเทศชาติได้อย่างไรด้วยนะ
จดหมายแนะนำคือสิ่งสำคัญมาก
จดหมายแนะนำจากอาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คณะกรรมการพิจารณาให้ทุนจะดูว่าอาจารย์ หรือหัวหน้างานเก่าเขียนถึงตัวเราว่าอย่างไร มีคุณสมบัติเหมาะสมเพียงพอจะรับทุนของสถาบันหรือไม่
ทั้ง 7 ข้อที่นำเสนอมานี้เป็นเพียงเทคนิคเบื้องต้นนะคะ แต่รับรองว่าสามารถช่วยเหลือเพื่อนๆ ในการขอทุนการศึกษาได้อย่างแน่นอน ขอแค่ให้มีกำลังใจและความตั้งใจ รับรองว่าโอกาศรับทุนนั้นอยู่ไม่ไกลเลยจ้า
ที่มา scholarship.in.th
ผลการเรียน และภาษาต้องดี
เป็นพื้นฐานในการที่จะได้ทุนการศึกษาเลย เพราะสถาบันที่เราสมัครขอทุนการศึกษาไปนั้นไม่รู้ว่าเรามีศักยภาพพอไหม ก็จะดูจากผลการเรียนของเรานี่เอง รวมถึงความสามารถทางภาษาของเราว่าเหมาะสมที่จะเข้าเรียนในประเทศนั้นๆ ไหมนั่นเอง
ผ่านเกณฑ์ในการรับสมัครทุน
ขั้นแรกเราต้องตรวจสอบแต่ละทุนให้ดีและละเอียดว่า ทางมหาวิทยาลัยหรือองค์กรผู้มอบทุนตั้งเกณฑ์อะไรไว้บ้าง แล้วจึงมาตรวจสอบคุณสมบัติของเราเองว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จผ่านคุณสมบัติเหล่านั้นหรือไม่
การสมัครเข้าเรียนอย่างรวดเร็ว
เหมือนสายน้ำที่ไม่เคยรอใคร และไม่เคยไหลย้อนกลับ ทุนส่วนใหญ่จะเปิดให้นักศึกษาที่สามารถสมัครเข้าเรียนกับทางมหาวิทยาลัยได้ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่าสถาบันไหนเปิดให้สมัครทุน ก็ต้องรีบสมัครไว้ก่อน พอผ่านคัดเลือกเข้าเรียนแล้วก็จะคุยเรื่องขอทุนง่ายขึ้น
ทำตัวให้น่าประทับใจ
การแสดงให้ทางมหาวิทยาลัยหรือสถาบันต่างๆ ว่าเราสนใจในสถาบันนั้น หรือมีความรู้เกี่ยวกับตัวสถาบันเป็นอย่างดี และความกระตือรือร้นที่จะเรียนในหลักสูตรเหล่านั้นจริงๆ สามารถช่วยคุณได้
อย่าสนใจแต่ตัวเอง
เวลาถูกสัมภาษณ์จากคณะกรรมการผู้คัดเลือก ควรจะบอกว่าเราจะสามารถพัฒนา และทุนช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างไร แต่ที่สำคัญอย่าลืมบอก้วยว่า เราจะสามารถช่วยเหลือสังคม สถาบัน หรือประเทศชาติได้อย่างไรด้วยนะ
จดหมายแนะนำคือสิ่งสำคัญมาก
จดหมายแนะนำจากอาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คณะกรรมการพิจารณาให้ทุนจะดูว่าอาจารย์ หรือหัวหน้างานเก่าเขียนถึงตัวเราว่าอย่างไร มีคุณสมบัติเหมาะสมเพียงพอจะรับทุนของสถาบันหรือไม่
ทั้ง 7 ข้อที่นำเสนอมานี้เป็นเพียงเทคนิคเบื้องต้นนะคะ แต่รับรองว่าสามารถช่วยเหลือเพื่อนๆ ในการขอทุนการศึกษาได้อย่างแน่นอน ขอแค่ให้มีกำลังใจและความตั้งใจ รับรองว่าโอกาศรับทุนนั้นอยู่ไม่ไกลเลยจ้า
ที่มา scholarship.in.th