วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ยังจำได้มั้ย…หนูน้อย ‘ลูซี่’ จาก ‘นาร์เนีย’ โตแล้วเป็นยังไง มาดูกัน!!

กุมภาพันธ์ 20, 2015 8:45 pm โดย adminpatjaa
1
68
safe_image
หากใครเป็นแฟนนาร์เนียตัวยง หมีขาวมั่นใจว่าทุกคนต้องจำหนูน้อย ‘ลูซี่’ ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งในครั้งแรกที่เธอปรากฏตัวนั้น เธอช่างดูไร้เดียงสา แต่วันนี้เวลาได้ผ่านไปไวเหมือนโกหก จนพัดพาให้เธอกลายเป็นสาวเต็มตัวแล้ว แถมยังน่ารักซะจนหลายคนอาจจำไม่ได้!!!

นี่คือภาพลูซี่ตอนเด็กๆที่แสดงเรื่องนาร์เนีย ตอนที่เธอรับบทลูซี่ เธออายุเพียงแค่สิบขวบเท่านั้น นักแสดงผู้รับบทนี้คือ Georgie Henley และตอนนี้เธออายุ 19 แล้ว
nania1
เห็เนิร์ดๆแบบนั้น พอโตเป็นสาวแล้วสวยแบบนี้เลยล่ะ!!
nania2
ไงล่ะ ตอนเด็กก็น่ารักดีนะ แต่พอโตเป็นสาวสวยเวอร์มากจริงๆ
nania3
ด้วยความที่ตอนเด็กๆเธอค่อนข้างจะมีฝีมือการแสดงที่โคตรเจ๋ง จึงกวาดรางวัลมามากมาย เธอเคยได้รับรางวัลนักแสดงนำและนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมมาแล้ว ถ้าถามว่าตอนนี้เธอหายไปไหน เธอก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก ยังมีงานแสดงอยู่ ถ้าใครคิดถึงเธอก็ตามไปชม เรื่อง Jane Eyre ที่ช่อง BBC ได้ แล้วก็ยังมีหนังอยู่ประปรายเช่น Perfect Sisters ที่ฉายเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้เธอก็กำลังเรียนอยู่ที่ Cambridge สวยเก่งสมเป็นผู้หญิงสมัยใหม่สุดๆไปเลย
nania 4 gif

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย👈


หลายคนที่เรียนมหาวิทยาลัย ต่างก็ต้องได้ยินเรื่องเล่า ความเชื่อต่างๆ ของมหาวิทยาลัยที่เราเรียนกันมา ว่าห้ามทำนู้น อย่าทำนี่ เพราะจะเรียนไม่จบ ติดเอฟ ซิ่ว ต่างๆนาๆ เอาหล่ะวันนี้เราจึงรวบรวมเรื่องแปลก?ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย?มาฝากเพื่อนๆ กันคะ ไปดูซิจะมีเรื่องเล่าอะไรบ้าง^^ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาเป็นเพียงความเชื่อของแต่ละบุคคล 

ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย

ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย

ไม่1. ?จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ห้ามเด็ดใบชงโค, ห้ามถ่ายรูปกับบันไดนาคเทวาลัย?บริเวณแถบคณะอักษรศาสตร์จะมีต้นไม้ ต้นใหญ่ที่มีมานาน กว่า 30 ปี คือต้นชงโค โดยชาวคณะอักษรฯเชื่อกันว่า ใบชงโคหน้าคณะนั้น??ห้ามเด็ด เด็ดขาด??เพราะจะถือว่านำใบไม้ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถาบัน พร้อมกับห้ามถ่ายรูปหน้าบันไดนาคที่เทวาลัย หากใครถ่ายก็จะเรียนไม่จบสมควรเก็บไว้ถ่ายตอนวันสำเร็จการศึกษาแล้วเท่านั้น
- สระน้ำจุฬาฯ?ในวันลอยกระทง ชายหญิงคนใดที่ยังไม่ได้เป็นคู่กันแล้วไปลอยกระทงร่วมกันจะได้เป็นคู่กัน แต่ถ้าเป็นคู่กัน แล้วไปลอยกระทงร่วมกันจะแยกจากกัน
- บันไดหน้าตึกขาวคณะวิทยาศาสตร์?เดิมทีนั้นตึกขาวคณะ วิทยาศาสตร์ เคยใช้เป็นที่เรียนของคณะแพทยศาสตร์ และที่ใต้บันไดเคยใช้เป็นที่เก็บอาจารย์ใหญ่ เชื่อกันว่า ห้ามนิสิตปี 1 คณะวิทยาศาสตร์ เดินขึ้นบันไดนี้ มิฉะนั้น จะถูก Retire
- บันไดกลางคณะครุศาสตร์?เชื่อกันว่า ถ้านิสิตปี 1 เดินผ่านขึ้นลงบันไดกลางแล้วจะเรียนไม่จบ แต่สำหรับผู้ที่ไม่รู้แล้วเดินผ่านก็ถือว่า ?ผู้ไม่รู้คือผู้ไม่ผิด?
- เวลาต้องการพึ่งบารมีของเสด็จพ่อร.๕ ให้ขอ ไม่ให้บน


?2. วิ่ง ?8 กรกฎ? ไม่ถึงไม่ได้ ?เอ? -?มหาวิทยาลัยบูรพา
มหาวิทยาลัยบูรพา ก็เป็นอีกหนึ่งสถาบันที่เชื่อเรื่องนี้เช่นกัน แต่ความเชื่อของที่นี่ต้องใช้ความทรหดเอาการ ในความเชื่อที่แลกด้วยความอดทนต่อการวิ่งและจะได้มาซึ่งเกรดเอที่ปรารถนา
ความเชื่อของที่นี่เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานานแล้ว ถ้าไม่ทำจะเรียนไม่จบ คือ ทุกปีในวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันเกิดของมหาวิทยาลัย รุ่นพี่จะนำนักศึกษาน้องใหม่ชั้นปีที่ 1 วิ่งจากเขาสามมุก กลับมาที่มหาวิทยาลัยเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร และพอเมื่อวิ่งมาถึงประตูหน้ามหาวิทยาลัยแล้วก็ จะมีตัวเอให้เหยียบ ถือเป็นเคล็ดให้สอบได้เกรดเอ 
วิ่ง ?8 กรกฎ? จะมีขึ้นในช่วงรับน้องแรกๆ เพื่อแสดงให้น้องเห็นถึงความพยายามกว่าจะถึงเส้นชัย ก็จะมีความยากลำบาก แต่หากใครขี้เกียจวิ่งหรือเหนื่อยก่อนกลางทางไม่ได้มาเหยียบเอตรงบริเวณประตูหน้ามหาวิทยาลัยก็จะเชื่อกันว่าว่าจะเรียนไม่จบ ตรงนี้จะเชื่อไม่เชื่อขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่น้องๆส่วนใหญ่ก็จะปฎิบัติตามทุกคน
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
3. ห้ามข้ามเครื่องแต่งกาย และอย่าหยิบหัวโขนมาใส่เล่น -?วิทยาลัยนาฎศิลป์
เรื่องนี้เป็นความเชื่อของหลากหลายสถาบันที่มีการเรียนการสอนนาฎศิลป์ไทย ที่โดยเชื่อกันในเรื่องความเป็นศิษย์และความเป็นครู ซึ่งแต่ละปีนั้นจะจัดพิธีสำคัญอย่างพิธีครอบครูขึ้นมาเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับนักเรียนนักศึกษา
“พิธีครอบครู”?หมายถึง การนำศีรษะครูมาครอบ (รับเป็นศิษย์) และครูจะคอยควบคุมรักษา ครูจะอยู่กับศิษย์คอยช่วยเหลือให้ศิษย์มีความจำในกระบวนการรำ จังหวะดนตรี หากมีสิ่งใดที่ไม่งามจะเกิดขึ้นกับศิษย์ ครูจะช่วยปัดเป่าให้พ้นจากตัวศิษย์ ทำให้ผู้เรียนมีกำลังใจ มีความมั่นใจมากขึ้น และพิธีครอบครูนั้น ผู้ศึกษานาฏศิลป์ทุกคนถือว่าเป็นพิธีสำคัญ และจำเป็นสำหรับผู้ที่ศึกษาปฏิบัติท่ารำที่อยู่ในระดับสูง เช่น การรำเพลงหน้าพาทย์ ก่อนจะรำผู้ศึกษาจะต้องผ่านพิธีครอบครูก่อนจึงจะต่อท่ารำให้ได้รับครอบเป็นประธานประกอบพิธีไหว้ครูและครอบครูต่อไป
โดยอีกหนึ่งวิธีความเชื่อที่ปรากฎมาเป็นวิธีปฎิบัติต่อความเชื่อ ในทีนี้ คือ หากนักเรียน หรือนักศึกษาสาขานาฎศิลป์คนไหนยังไม่ได้ทำการครอบครู ก็เชื่อกันว่า ห้ามสวมเครื่องแต่งกายและหัวโขนมาใส่ในการแสดง จะไม่เป็นมงคลและอาจเกิดอำนาจลี้ลับว่าอาจจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับผู้นั้นได้
ขวัญ ?เฉลิมขวัญ?ศิษย์เก่าวิทยาลัยนาฎศิลป์ กรุงเทพ บอกเรื่องความเชื่อในครูที่เป็นสิ่งลี้ลับประจำเครื่องแต่งกาย ประจำเครื่องดนตรี และประจำเครื่องประกอบการแสดงชั้นสูง เป็นความเชื่อที่สำคัญและถูกปลูกฝังกันแบบรุ่นสู่รุ่นและปฎิบัติกันมาอย่างเคร่งครัด
?เรื่องการปฎิบัติตัวและข้อห้ามต่างๆครูก็จะเป็นผู้บอกว่าห้ามทำอย่างนี้ อะไรควรทำไม่ควรทำและก็จะมีรุ่นพี่คอยเตือนอีกรอบ โดยปกติวิทยาลัยนาฎศิลป์ก็จะครอบครูกันปีละครั้ง คนที่ยังไม่ได้ครอบครูก็จะห้ามใส่หัวโขน แต่หากครอบแล้วก็สามารถสวมหัวโขนขึ้นแสดงได้ แต่ถ้าหากนำมาใส่เล่น ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ห้ามกันเลย อีกทั้งยังห้ามเดินข้ามเครื่องแต่งกายชุดแสดงเพราะถือว่าเป็นผ้าไทยเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่าอาจจะโดนของเข้าได้หากทำผิดสิ่งที่ได้ห้ามบอกกันไว้ทั้งสองอย่างนี้?
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
4. วิ่งไม่ถึงดอยก็เรียนไม่จบ -?มหาวิทยาลัยเชียงใหม่?
มหาวิทยาลัยมีประเพณีรับน้องขึ้นดอย โดยเชื่อว่าถ้า นักศึกษาปี 1 เดินจากมหาวิทยาลัยขึ้นไปถึงยอดดอยสุเทพระยะทาง 14 กิโลเมตรได้ จะเรียนจบภายใน 4 ปี ส่วนอีกความเชื่อเป็นเรื่องที่บอกต่อๆ กันมาว่าห้ามนักศึกษาที่ยังเรียนไม่จบถ่ายรูปกับศาลาธรรมที่อยู่ตรงประตูหน้ามหาวิทยาลัย เพราะจะทำให้เรียนไม่จบ และจะถ่ายได้ก็ต่อเมื่อเรียนจบแล้วเท่านั้น
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
5. ห้ามขอพรเรื่องความรัก – มหาวิทยาลัยรังสิต
มณฑปพระศรีศาสดา?ที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางมหาวิทยาลัยรังสิตที่เป็นดั่งศูนย์รวมแห่งศรัทธาในบวรพุทธศาสนา ก็เป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่มีความเชื่อประกอบเช่นกัน บรรดาคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา ตลอดจนผู้เดินทางมาเยี่ยมเยือนมหาวิทยาลัยรังสิตโดยทั่วไป ต่างก็กราบไหว้ขอพรกันตามปกติโดยสิ่งที่ผิดปกติไปจากรั้วถิ่นมหาวิทยาลัยอื่น ชาวรังสิตทุกคนจะรู้กันดีว่า คือ เรื่ององการขอพรหรือ “การบน”จากที่เคยสามารถขอพรกันได้หมดตามศรัทธา แต่สำหรับพระศรีฯหรือ ศรัทธาแห่งชาวรังสิตแล้ว?ห้ามขอในเรื่องของความรักเด็ดขาดเพราะมิฉะนั้นก็จะเรียนไม่จบ
?อิง-จิราภรณ์ ตุลาผล??ศิษย์เก่าคณะศิลปศาสตร์ ขณะนี้ปฎิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ประจำมหาวิทยาลัยรังสิต อิงเล่าว่าเวลารับน้องนั้นรุ่นพี่จะบอกต่อๆกันมาถึงเคล็ดลับในการขอพรให้สำเร็จว่าให้ขอและตั้งจิตอธิษฐานดีๆโดยเฉพาะช่วงสอบ แต่สิ่งหนึ่งที่ห้ามขอเลยทีเดียวก็คือห้ามขอเรื่องความรัก
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
6. ใครใส่ชุดครุย หรือสวมหมวกบัณฑิตก่อนเรียนจบ ก็จะเรียนไม่จบ!
จริงแท้แน่นอนยังไงก็ไม่มีใครทราบได้ แต่ท้ายสุดแล้วนั่นก็เป็นความเชื่อที่เกิดขึ้นกันมาอย่างนมนาน ที่บรรดานิสิตนักศึกษาต่างๆก็ได้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป และปฎิบัติตามบ้างไม่ตามบ้างเป็นเรื่องธรรมดา
เราคงเคยได้ยินว่า?วันสำคัญของเรา จงอย่าออกไปไหน มีข่าวการเสียชีวิตของคนบางจำพวก เช่น?นาคที่จะบวชเป็นพระเสียชีวิตก่อนได้บวช เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวเสียชีวิตก่อนได้แต่งงาน นักศึกษาเสียชีวิตก่อนได้รับปริญญา?เป็นต้น บางครั้งไม่ได้เสียชีวิตหรอก แต่ก็เป็นเหตุให้งานสำคัญๆของเราต้องหยุดไปหรือเสียหายไป ทั้งนี้ท่านว่า เวลาเราจะมีงานอะไรสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น การบวชของผู้ชาย การแต่งงาน การรับปริญญา เป็นต้น งานเหล่านี้มีครั้งเดียวในชีวิต คนโบราณจึงห้ามมิให้คนเหล่านี้เดินทางไปไหน ให้อยู่แต่ในบ้าน เพราะท่านว่าคนประเภทนี้เนื้อหอมมากนักแล คือจะหอมกับภูตผีวิญญาณทั้งหลาย และสัตว์ทั้งหลาย 
เช่น คนจะบวชเป็นพระจะเนื้อหอมมาก แม้แต่กับสตรีก็เช่นกัน?อะไรก็ตามที่จะทำให้การบวชพินาศลง สิ่งนั้นก็ถือเป็นมารทั้งสิ้น ดังนั้นในวันสำคัญแบบนี้ของคุณ จงอย่าไปไหน ให้อยู่กับบ้านกับที่ ให้ผ่านพิธีสำคัญไปก่อน เช่น แต่งงานเสร็จแล้ว รับปริญญาเสร็จแล้ว เป็นต้น แต่ยังไงก็ตามเรื่องนี้ก็พึงสอนในเรื่องความไม่ประมาท มนุษย์เราไม่ควรประมาทเลย ไม่ว่าในเรื่องใด
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
7.??มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต 
มีความเชื่อที่บอกต่อกันมาว่า ถ้าอยากเรียนจบ ห้ามนับเป็ดที่ว่ายในสระน้ำหน้ามหาวิทยาลัย ส่วนอีกเรื่อง คือ ห้องเรียนในมหาวิทยาลัยทุกห้องจะมีประตู 3 บาน คือ ประตูหน้า กลาง หลัง แต่ที่มหาวิทยาลัยจะล็อคประตูกลางทุกห้องไม่เปิดให้นักศึกษาเข้า-ออก เพราะเชื่อว่าถ้านักศึกษาออกประตูกลาง จะทำให้ออกกลางคัน
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
8. มหาวิทยาลัยนเรศวร 
ก็มีความเชื่อเรื่องเรียนไม่จบเหมือนกัน เชื่อกันว่าถ้านักศึกษาไม่เข้าพิธีบวงสรวงพระนเรศวรในวันรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย จะเรียนไม่จบ ในวันนั้นนักศึกษาปี 1 ทุกคณะจะมารวมตัวกันทำพิธีบวงสรวง ซึ่งเป็นพิธีทางพราหมณ์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
9.?มหาวิทยาลัยศิลปากร?
ว่ากันว่า ที่วิทยาเขตเพชรบุรี ห้ามสวด คาถาชินบัญชร?สาเหตุนึงที่ห้ามไว้ เนื่องจาก ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นป่าช้าเก่า มีสิ่งลี้ลับและวิญญาณอยู่จำนวนมาก แทบทุกตารางนิ้วเลย?คาถาชินบัญชรจะอัญเชิญเทพเทวดาลงมา และมาทับที่ที่เค้าเคยอยู่ เค้าก้อจะไม่ยอม?เล่ากันว่าเคยมีเด็กลองสวดแล้วเกือบส่งโรงพยาบาลไม่ทัน?แต่อีกกระแสนึง ผู้ใหญ่บางคนก็บอกว่าไม่เป็นอะไร
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
10.?มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
มีตำนานว่าถ้าหนุ่มสาวคู่ไหนขี่จักรยานผ่าน?Loving Way?ตอนเที่ยงคืนก็จะได้เป็นแฟนกัน แต่ถ้าเกิดหลงเข้าไปใน?breaking way ก็จะเลิกกันทันที?* Loving Way?บางคนก็บอกว่า ให้ผู้หญิงขี่ ผู้ชายซ้อน ถึงจะรักกันๆ แต่บางคนก็บอกว่า แค่ไปด้วยกันก็จะเป็นแฟนกัน ตกลงว่า ถ้ามันจะเป็นแฟนกันจิงๆ ป่านนี้นู๋เป็นแฟนคนขับมอร์ไซค์ไปแล้วว
- หากคู่รักคู่ใดที่ได้ลอยกระทงด้วยกันที่สระน้ำหน้าหอประชุมใหญ่ จะต้องเลิกกันในที่สุด
- มีเรื่องเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่นว่า นิสิตคนไหนที่ได้เห็นเต่าในมหาลัยแล้วละจะเรียนไม่จบในสี่ปี เพราะงั้นเวลาเดินผ่านหนองน้ำต่างๆ ในมหาลัย ทุกคนจะพยายามมองไปทางอื่นกัน แต่ถ้าเห็นกระรอกเผือกก่อนสอบวิชาไหน ก็จะได้เอในวิชานั้น (แต่ถ้าเห็น”กะ-ลอก” โดนพักการเรียนแน่นอน)
- เด็กวิศวะต้องมีวันแจกดอกกุหลาบ ตรงสามแยก เค้าว่ากันว่า ถ้าเฟรชชี่วิศวะคนไหน มอบดอกไม้ให้สาวไม่ได้ จะเรียนไม่จบ และเค้าว่ากันว่า… สาวไหนที่เผลอไปรับดอกไม้ของเฟรชชี่วิศวะ ก็จะเรียนไม่จบ รับมาแล้วก็ต้องเอาไปคืนให้ได้ เป็นวันที่โรงอาหารคณะวิดยาจะวุ่นวายมากๆ วันนึง
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
11. มหาวิทยาลัยหอการค้า
นักศึกษาที่ “ม.หอการค้าไทย” เชื่อว่าห้ามสบตาเต่าในบ่อน้ำไม่งั้นจะเรียนไม่จบ?(หากนับเต่าแล้วได้กี่ตัว ก็จะได้?F?ตามจำนวนเต่านั้น),?ในสวนญี่ปุ่นห้ามข้ามสะพานไม่งั้นจะเรียนไม่จบ,?ถ้าใครคิดว่าเกรดดีเป็นคนเรียนเก่ง ให้กลับไปคิดใหม่ได้เลย เพราะเกรดดีตามภาษาม.แห่งนี้ึคือเกรดD+และD?ตามออกเสียงภาษาอังกฤษ
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
12. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เขาว่าใครกลั้นหายใจผ่านสะพานขาวจะได้เข้าเรียนที่ม.ข. สะพานขาวอยู่ข้างสระพลาสติก, วิ่งกลั้นหายใจข้ามสะพานขาว แล้วจะขอพรอะไรก้ได้?1?ข้อ (คำเตือน อาจตายก่อนจะวิ่งพ้นสะพาน),?ถ้าไปบนที่ศาลเจ้าพ่อมอดินแดงตอนเที่ยงคืนจะสมหวัง (แต่น่ากลัวมากๆๆๆๆ),?เขาว่าเด็กวิศวะที่ยังไม่จบ ห้ามถ่ายรูปกับเกียร์ เด็ดขาด มิฉะนั้น อาจจบเห่ได้,?ถ้าชาย-หญิงคู่ไหนที่นับเสาสะพานขาวคนละด้านของสะพานได้เท่ากัน จะได้เป็นแฟนกัน(จริงๆ มันไม่เท่ากัน)
- “เจ้าพ่อมอดินแดง” คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพของชาว มข. มีคนนำช้างกับม้ามาถวายท่านเจ้าพ่อ เฉลี่ย วันละ?100?ตัว
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
13.?มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
?พระสิทธิธาดา??สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย เราก็มักจะพบว่าบรรดานิสิตนักศึกษาที่ต้องการที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ทำการเข้ากราบไหว้ ขอพรต่างๆ ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่องของความรัก
- มีบ่อน้ำคั่นทางเดินระหว่างตึก?1?กะ?2?ซึ่งมีสะพานเล็กๆสวยเก๋ตั้งอยู่ที่นั่น ซึ่งลือกันว่าถ้าใครข้ามสะพานนี้จะเรียนไม่จบ (เด็กปี?1?เข้าใหม่หลายคนข้ามสะพานนี้มากันเยอะแล้ว แต่ไม่ปรากฏผลลัพธ์),?พระสิทธิธาดาเป็นสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ที่นักศึกษาเคารพบูชา
- มธบ. ห้ามมองเต่า ไม่งั้นสอบตก
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
14.?มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์?
หลายคนบอกว่า สัตว์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต คือ??ตัวเงินตัวทอง??ซึ่งนักศึกษาคนไหนไม่เคยเห็นถือว่าโคตรเชย โดยเฉพาะตอนสอบว่ากันว่า ถ้าใครเห็นตัวเงินตัวทองตอนสอบจะทำข้อสอบได้ /
- ?สะพานดาว??ว่ากันว่า ถ้าตะโกนชื่อคนที่เราชอบจนสุดสะพานจะสมหวังในความรัก
- ว่ากันว่า ถ้าคู่รักใดปั่นจั๊กขึ้น?“สะพานปลาหน้าตึกวิศว?ได้จะรักกันตลอดไป และถ้าใครไปถ่ายรูปคู่กับพญานาค ที่ลานพญานาคหน้าเมนสเตเดียมจะเรียนไม่จบเช่นกันถ้าใครถ่ายรูปคู่กับโดมก็จะเรียนไม่จบ
ตำนานความเชื่อของนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย
15. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม??ศาลกระดิ่ง??
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาว มมส ให้ความเคารพนับถือ เนื่องจากมีมานานสมัยที่ ม.ยังไม่ตั้งวิทยาเขตใหม่ (พื้นที่เขตขามเรียง) ทุกปีที่มีกิจกรรมรับน้องใหม่ นิสิตทุกคนก็จะมาบอกกล่าว เพื่อให้กิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปด้วยดี นอกจากนี้เวลามีกิจกรรมต่างๆ ที่ทาง ม.จัดขึ้น หรือต้องเดินทางไปทำกิจกรรมต่างจังหวัดก็จะต้องแวะเวียนมาขอพรที่นี่

วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

               27 ภาพความรู้อันน่าทึ่ง ที่หลายคนอาจไม่เคยเห็น.

ปัจจุบันโลกของเราได้เปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งเทคโนโลยี ธรรมชาติ มนุษย์จึงต้องมีการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา 
การดังนั้น แสวงหาของมนุษย์จึงไม่มีวันสิ้นสุด
และนี่คือ 27 ภาพความรู้รอบโลก ที่หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต จะน่าทึ่งและได้ความรู้ใหม่ๆ มากขนาดไหน ต้องดูเอาเองนะคะ

ด้านใน ของสายเคเบิ้ลใต้น้ำ

 

ภาพน้ำพุร้อน ก่อนที่จะระเบิด


พายุทรายขนาดยักษ์โจมตีฝั่งออสเตรเลียตะวันตก ช่วงต้นปี 2013

 

ภาพลิ้นของมนุษย์ ที่ส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์

 

ภาพสายรุ้งแบบ 360 องศา ถ่ายจากบนเครื่องบิน

 
 

นาฬิกาของ อิกโตะ คาวาโกเอะ ที่หยุดเดินตอน 8.15 น. ในปี 1945 เวลาที่ฮิโรชิม่าโดนทิ้งระเบิดนิวเคลียร์พอดี

 
 

ภาพถ่ายจากบนฟ้า ของสุสานยางรถยนต์

 

แบ็กเกอร์ 288 พาหนะที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

เซลล์มะเร็ง ภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน

 

โต๊ะของไอสไตน์ ชั่วโมงหลังจากที่เขาเสียชีวิต

 
 

ภาพไขมันน้ำหนัก 5 ปอนด์ เปรียบเทียบกับกล้ามเนื้อน้ำหนัก 5 ปอนด์

 

อนุสาวรีย์ เจง กีสข่าน ในมองโกเลีย

 

ฟันของ จอร์จ วอชิงตัน

 

ออฟฟิศของฮิตเลอร์

 

กูเกิ้ล ดาต้า เซ็นเตอร์ (ที่เก็บเซิฟเวอร์ของกูเกิ้ล)

 

สีจริงๆ ของพื้นผิวดาวอังคาร

 

ไมเคิล แองเจลโล่ วาดรายชื่อสิ่งของให้กับคนใช้ที่ไม่รู้หนังสือของเขา เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขาจะต้องซื้ออะไรบ้าง


เมืองของชาวบาวาเรีย ที่สร้างขึ้นในหลุ่มอุกาบาตที่พุ่งชนโลกเมื่อ 14 ล้านปีก่อน

 

“แสงเหนือ” จากอวกาศ

 

ไข่ปลาหมึกยักษ์

 

คุกขังนักโทษใน เอลซัลวาดอร์

 

ภาพถ่ายดาวพุธที่ชัดเจนที่สุดที่เคยถ่ายได้

 

ข้างในเครื่องบินโบอิ้ง 757 ของ FedEx แบบไม่มีสินค้าใดๆ

 

ลาวาจากภูเขาไฟ ที่ยังคงคุกรุ่นตลอด ในเอธิโอเปีย

 

หน้าตาของสุนัขพันธุ์ “ปั๊ก” ในสมัยก่อน ปี 1880

 

จุดสิ้นสุดของกำแพงเมืองจีน

 

ภาพเอ็กซเรย์ก่อนและหลังการรักษาโรค สันหลังคด

เรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะได้เห็นภาพเหล่านี้ ดังนั้น ความรู้ไม่จำเป็นจะต้องได้มาเฉพาะในห้องเรียนเท่านั้น
แต่เราสามารถหาประสบการณ์ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัวๆ ตัวเราได้ ตลอดเวลาเลยล่ะ
ที่มา : unmotivating