วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ขั้นตอนการขอและสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ขอเป็นครั้งแรก

วีซ่าอเมริกา (USA VISA) ถือว่าเป็นวีซ่าปราบเซียน เพราะว่ากันว่าขอยากเป็นอันดับต้นๆ แค่กรอกประวัติก็หลายหน้าแล้ว รูปถ่ายก็เคร่งครัดต้องเปิดหู-เปิดโหงวเฮ้ง (โชว์เหม่ง) จองคิวสัมภาษณ์กันนาน ไปจนถึงด่านสุดท้ายคือสัมภาษณ์วีซ่าที่ใครๆ ก็ว่าโหดเหลือเกิน  ยอมรับเลยว่าที่ฟังๆ มาว่ายากเหลือหลายนั้นเป็นจริงแค่เพียงสักครึ่งเดียว แต่ที่เหลือถ้าเตรียมพร้อมมาดีๆ รับรองผ่านฉลุยค่ะ ไม่ยากอย่างที่ว่ากัน 

ขั้นตอนเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันเลยดีกว่า

แนะนำวีซ่าสหรัฐอเมริกา มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

การขอวีซ่าอเมริกานั้น มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วีซ่าชั่วคราว และวีซ่าถาวร
  • วีซ่าชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)สำหรับกรณีที่เดินทางไปท่องเที่ยว ไปทำธุรกิจ ไปทำงาน ไปเรียนหนังสือ ผู้สื่อข่าว สื่อมวลชน เป็นต้น
  • วีซ่าถาวร (Immigrant Visa) สำหรับการย้ายถิ่นฐานถาวร เช่น คู่สมรส ญาติ บุตรบุญธรรม
กรณี 2baht.com นั้นเป็นการขอวีซ่าชั่วคราวสำหรับการเยี่ยมเยียน (Visitor Visa) หรือ วีซ่าประเภท B-1/B-2 โดยจะมี 2 วัตถุประสงค์ (อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ รวมกันก็ได้) ดังนี้
  • B-1: Business Visa (ฺB1) สำหรับการเดินทางเพื่อติดต่อด้านธุรกิจ เข้าร่วมประชุมเชิงวิทยาศาสตร์ การศึกษา
  • B-2: Tourist Visa (B2) สำหรับการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว พักผ่อน เยี่ยมเยียนเพื่อนฝูงหรือญาติ การรักษาด้านการแพทย์ และการเข้าร่วมงานการกุศล กิจกรรมเพื่อสังคมหรือบริการ
สำหรับวีซ่าชั่วคราวประเภทอื่นนอกเหนือจากนี้เราจะไม่กล่าวถึง ใครสนใจลองอ่านรายละเอียดได้ที่ US Embassy Bangkok

ขั้นตอนการสมัครขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา

ขั้นตอนตั้งแต่สมัครจนได้วีซ่ามี 3-4 ขั้นตอนใหญ่ๆ ได้แก่ การกรอกใบสมัครออนไลน์พร้อมอัพโหลดรูปถ่าย จากนั้นไปชำระเงินค่าธรรมเนียมที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จองคิว-เตรียมเอกสาร เพื่อนัดสัมภาษณ์ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกา
รายละเอียดของแต่ละขั้นตอนมีดังนี้ค่ะ

1. กรอกเอกสารใบสมัครขอวีซ่าชั่วคราวออนไลน์ (DS-160)

ปัจจุบัน การกรอกเอกสารวีซ่าของสหรัฐอเมริกา ต้องทำผ่านหน้าเว็บทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนนี้ใช้เวลาในการกรอกเอกสารค่อนข้างนานราว 1-2 ชั่วโมง  รายละเอียดค่อนข้างเยอะกว่าการขอวีซ่าเชงเก้นอยู่พอสมควร แล้วแต่ประเภทวีซ่าและข้อมูลส่วนตัวของแต่ละบุคคล
  • ประเภทวีซ่าที่ต่างกันก็ใช้แบบฟอร์มที่ต่างกัน สำหรับแบบฟอร์มวีซ่าชั่วคราวสำหรับนักท่องเที่ยว เรียกว่าฟอร์ม DS-160 (ส่วนรายละเอียดของวีซ่าประเภทอื่นๆ อ่านได้ที่ US Travel Docs (ภาษาไทย))
  • ระหว่างการกรอกใบสมัคร อาจมีคำถามต่อเนื่องเพิ่มเติมซึ่งทำให้ใช้เวลากรอกเพิ่มขึ้นไปอีกได้
ผู้ขอวีซ่าควรใช้ความระมัดระวังในการกรอกข้อมูลให้ถูกต้อง ไม่ควรรีบร้อน เพื่อให้ข้อมูลถูกต้องและเป็นไปตามความจริง หากกรอกไม่เสร็จก็สามารถเซฟฟอร์มไว้บนหน้าเว็บ เพื่อกลับมากรอกเพิ่มเติมในวันอื่นได้ (ควรจดหมายเลข Application ID ของเราไว้ด้วยนะคะ)
เมื่อพร้อมแล้ว เข้าไปกรอกแบบฟอร์ม Online Nonimmigrant Visa Application (DS-160) กันได้ที่เว็บไซต์ US Consular Electronic Application Center (CEAC – ระบบกงสุลออนไลน์) กันเลยค่ะ
1) หน้าแรก แนะนำให้เลือก ToolTip Language เป็น “ภาษาไทย (THAI)” นะคะ เพราะบางครั้งเราอาจจะสับสนหรืองงในคำถามภาษาอังกฤษ ก็สามารถใช้ ToolTip โดยเอาเมาส์ไปวางข้อความต่างๆ ด้านข้างเพื่อแปลเป็นภาษาไทยได้
แบบฟอร์มขอวีซ่า DS-160
2) หลังจากที่กดปุ่ม “Start An Application” แล้ว อย่าลืมจด Application ID ที่อยู่มุมบนขวากันนะคะ (หากกรอกนาน หรือต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม จะได้กลับมากรอกข้อมูลกันใหม่วันหลังได้ค่ะ)
แบบฟอร์มขอวีซ่า DS-160
3) หน้าจอถัดไปของ DS-160 จะให้กรอกรายละเอียดต่างๆ ตามหมวดหมู่ เริ่มจากข้อมูลส่วนบุคคล ที่อยู่ ข้อมูลหนังสือเดินทาง การเดินทาง ข้อมูลการทำงาน/การศึกษา ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ประเมินว่ารวมๆ แล้วเราต้องใช้เวลากรอกประมาณ 75 นาทีเลยทีเดียว
อันนี้ก็ใจเย็นๆ ค่ะ ค่อยๆ กรอกกันไปเท่าที่ทำได้นะ สู้เค้านะทุกคน!!

แบบฟอร์มขอวีซ่า DS-160
ตัวอย่างการใช้ ToolTip ระหว่างการกรอกแบบฟอร์ม DS-160

4) เมื่อกรอกฟอร์ม DS-160 เสร็จหมดแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายของการยื่นแบบฟอร์มนั้น ต้องแนบรูปถ่ายขนาด 2×2 นิ้ว (อัพโหลดเป็นไฟล์เข้าไปได้เลย) ดังนั้นหากทราบแผนการเดินทางไปอเมริกาแล้ว ก็ควรไปถ่ายรูปไว้ก่อน (เพราะสามารถทำระหว่างกรอกเอกสารไปด้วย จะได้ไม่ต้องมารอกัน) โดยระบบวีซ่าออนไลน์นั้นจะมีเครื่องมือตรวจสอบให้อยู่แล้วว่ารูปเราผ่านคุณสมบัติหรือไม่

คำแนะนำการถ่ายรูปแนบวีซ่า


ตัวอย่างและข้อกำหนดของรูปถ่ายแนบแบบฟอร์มคำขอวีซ่า
ตัวอย่างและข้อกำหนดของรูปถ่ายแนบแบบฟอร์มคำขอวีซ่า / ภาพจาก U.S. VISAS

  • เนื่องจากรายละเอียดของรูปถ่ายวีซ่า ค่อนข้างเยอะ เช่น ความกว้างและความยาวของใบหน้าในรูปมีขนาดขั้นต่ำเท่าไหร่ แต่สำหรับสมัยนี้แล้วเราสามารถตรวจสอบผ่านเครื่องมือตรวจสอบรูปถ่ายวีซ่าแบบออนไลน์กันได้ สบายๆ ค่ะ
  • สำหรับผู้หญิงไม่ควรห่วงสวย เน้นให้รูปผ่านง่ายๆ ด้วยการเปิดหน้าผากและติดกิ๊บดำ เอาผมทัดหู หรือรวบไปเลยก็ได้ ใครที่หูแนบกับหน้าก็ไม่เป็นไร ขอให้ผมไม่บังหูเป็นพอ ส่วนใครที่สวมแว่น แนะนำให้ถอดแว่นออกก่อนถ่ายรูปด้วยนะ
  • หากใครอยากถ่ายรูปด้วยตัวเองไม่ต้องสิ้นเปลืองเงิน ลองอ่านเทคนิคการถ่ายรูปขอวีซ่าด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ในราคาประหยัด
เมื่อกรอกฟอร์ม DS-160 เสร็จแล้ว แนะนำให้พิมพ์หน้าเพจยืนยัน DS-160 ที่มีรูปถ่ายและเลข Application ID ของเราไว้ด้วย เพราะจะต้องยื่นให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตอนไปสัมภาษณ์ที่สถานทูต (จะได้รับทาง e-mail ค่ะ)

2. ชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่า 160 ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อกรอกฟอร์ม DS-160 เสร็จแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการจ่ายเงินค่าธรรมเนียม ก่อนจะนัดหมายเพื่อสัมภาษณ์ต่อไป ถ้าเราไม่จ่ายเงินจะไม่สามารถนัดหมายได้
การจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อเรากรอกแบบฟอร์มเสร็จเท่านั้น (ไม่ว่าอย่างไรต้องอดทนกรอกฟอร์มให้จบก่อน) วิธีการจ่ายเงินมี 2 ช่องทางคือ โอนเงิน หรือจ่ายเงินสดที่เคาเตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) จ่ายได้แค่ธนาคารเดียวเท่านั้นนะคะ
เราขอแนะนำให้จ่ายค่าธรรมเนียมที่ ธ.กรุงศรีฯ เพราะจะสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้เร็วกว่า คือ จ่ายเงินวันนี้ พรุ่งนี้เที่ยงก็สามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้ทันที
เมื่อเราเปิดมาถึงหน้าตามภาพด้านล่าง (Schedule Appointment) จะเห็นราคาค่าวีซ่าที่ต้องจ่าย พร้อมปุ่ม Click Here For All Payment Options เพื่อดูรายละเอียดการจ่ายเงิน ตรงนี้เราจะต้องจดเลข ID ของเราไปจ่ายด้วย (จะสั่ง print หน้าเว็บไปยื่นที่ธนาคารเลยก็ได้ สะดวกดี)
ตัวอย่างหน้าจอชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า
คำแนะนำ
ธนาคารกรุงศรีฯ จะมีฟอร์มใบนำฝากเงินสำหรับการจ่าย Visa มาให้อยู่แล้ว เราแนะนำให้พิมพ์และกรอกใบนำฝากเงินให้ข้อมูลตรงกับใบแนะนำการชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าสหรัฐฯ และตรวจสอบอีกครั้งหลังจากเจ้าหน้าที่ทำรายการให้เรียบร้อย (ค่าธรรมเนียมวีซ่าแพง ควรตรวจให้ละเอียดรอบคอบ)

แบบฟอร์มการชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าที่ ธ.กรุงศรีอยุธยา
แบบฟอร์มการชำระค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าที่ ธ.กรุงศรีอยุธยา

หลังจากจ่ายเงินสดที่ธ.กรุงศรีไปแล้ว เราจะได้เลข Receipt No. เพื่อยืนยันการจ่ายเงินมา
ให้เรารอถึงวันรุ่งขึ้น ตอนเวลา 12.00 น. หรือ ก่อนเที่ยงนิดหน่อย เข้าไปยังหน้า Payment อีกรอบ ระบบจะแสดง Receipt No. ให้อัตโนมัติ ยืนยันว่าเราจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นรีบเข้าไปจองคิวสัมภาษณ์วีซ่ากันต่อ ซึ่งจะมีเวลาให้เลือกทีละ 15 นาที ขั้นตอนนี้ให้ไวนะคะ อย่ามัวโอ้เอ้ เพราะใครๆ ก็รอเวลาเที่ยงกันค่ะ (อารมณ์เหมือนแย่งซื้อตัวคอนเสิร์ตเลย)
Capture2

หมายเหตุ การจองวันนัดสัมภาษณ์ควรมั่นใจด้วยว่าเราสามารถหาเอกสารประกอบการสัมภาษณ์ได้ครบก่อนวันสัมภาษณ์ (รายละเอียดอ่านที่ข้อถัดไปเลยค่ะ)
เมื่อจองวันที่ได้แล้ว เราจะได้อีเมลยืนยันการนัดหมายมา เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ขั้นต่อไปคือเตรียมเอกสารเพื่อนัดทำ Visa

3. การเตรียมเอกสารเพื่อสัมภาษณ์วีซ่า

ในเว็บ US Travel Docs ระบุรายละเอียดเรื่องเอกสารประกอบการสัมภาษณ์วีซ่าไว้ดังนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น